เกี่ยวกับ ขนส่ง

กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ  

ราคาน้ำมัน  

หาระยะทาง  

ท่าเรือแหลมฉบัง  
อื่นๆ

กรมศุลกากร  

หนังสือพิมพ์  

ดูดวง  
 
 
ท่าทีภาคธุรกิจ-นักวิชาการกับนโยบายค่าแรง

    หลังจากที่รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ประกาศสัญญาจะดำเนินนโยบายตามที่ได้หาเสียงไว้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง  ประเด็นคำถามที่ถาโถมเป็นระลอกเกี่ยวกับนโยบายกับปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน   เกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภาคธุรกิจ  และอุตสาหกรรมหลายภาคส่วนถือว่าเป็นประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม  และความเป็นไปได้มากที่สุด  เนื่องจากนโยบายดังกล่าวมีผลต่อต้นทุนของผู้ประกอบการโดยตรง
 ล่าสุด สถาบันปัญญาสมาพันธ์เพื่อการวิจัยความเห็นสาธารณะแห่งประเทศจึงได้ร่วมกับ บมจ. ซีพี ออลล์  จัดงานเสวนาพิเศษภายใต้หัวข้อ "การปรับตัวของภาคธุรกิจในยุครัฐบาลใหม่" (ภายใต้นโยบายหาเสียงเกี่ยวกับแรงงาน) โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจาก 3 ภาคส่วนโดยมีรศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ ,ดร.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ และซีอีโอ-ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ มาร่วมแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว
++แนะไทยใช้นโยบายการบริหารจัดการที่ถูกต้อง 
 ต่อเรื่องนี้ " รศ.ดร.สมภพ  มานะรังสรรค์"  อธิการบดี  สถาบันการจัดการ  ปัญญาภิวัฒน์  ตั้งข้อสังเกตว่า  การจ่ายค่าจ้างแรงงานต่ำจนไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันนั้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้น  หรือประเด็นย้ายแรงงานเข้ามาแทนที่จะย้ายอุตสาหกรรมไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปัจจุบันพบว่าแรงงานประมาณ 2-3ล้านคนมาจากประเทศเพื่อนบ้านไม่ใช่จีน  อีกทั้งก่อนหน้านี้ไทยได้มีนโยบายส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)โดยแยกออกเป็น 3 โซน  ประกอบไปด้วย โซน  1.กรุงเทพฯและปริมณฑล ,โซน 2.จังหวัดที่มีตัวเมืองอยู่ห่างกรุงเทพฯไม่เกิน 150 กิโลเมตร  และโซนที่ 3.คือส่วนที่เหลือทั้งหมด  แม้ที่ผ่านมาได้พยายามส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง  แต่ผลปรากฏว่าอุตสาหกรรมไปได้เพียงแค่ขอบของรอยต่อของโซน 2 และโซน 3 เช่น  ระยอง  หลังจากนั้นก็จะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้ามาในกรุงเทพฯเกือบทั้งหมดจากทั่วทุกภาคของประเทศ  และแนวโน้มต่อไปจำนวนแรงงานจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 6-7 ล้านคน  หรือคิดเป็นประมาณ 10% ของประชากรไทย  ซึ่งประเด็นปัญหารูปแบบอื่นจะตามมาอีกจำนวนมาก
 ดังนั้น  ประเทศไทยควรจะต้องแก้ไขปัญหาแรงงานแบบเป็นแพ็กเกจในการรองรับประชาคมอาเซียน หรือความคาดหวังที่ไทยจะเป็นศูนย์กลาง(HUB)ระหว่างสมาชิกอาเซียน  โดยต้องมีนโยบายที่ชัดเจน  รวมถึงการบริหารจัดการประเทศที่ถูกต้อง  และได้บุคลากรที่มีความสามารถ โดยเฉพาะนักการเมืองที่มีวิสัยทัศน์เข้ามาบริหารจัดการ
++ค่าจ้างปรับขึ้นไม่ทันค่าครองชีพ
 ด้าน "ดร.ยงยุทธ  แฉล้มวงษ์"  ผู้อำนวยการวิจัย  ด้านการพัฒนาแรงงาน  สถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทย  หรือทีดีอาร์ไอ (TDRI) กล่าวว่า  โดยหลักการหลังจากที่มีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจะมีผลต่อราคาสินค้า  ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นว่ายังไม่ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำที่ 300 บาทแต่ สินค้าบางชนิดได้มีการปรับราคาขึ้นตามไปแล้ว
 "สรุปคือค่าจ้างขั้นต่ำจะต้องเพียงพอต่อค่าครองชีพ  และเป็นค่าจ้างที่เป็นธรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม  แต่กลับมีข้ออ้างไม่ปรับค่าแรงเป็นเวลาต่อเนื่อง 10 ปี  จึงมีการสะสมมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน  ทำให้ช่องว่างห่างกันมาก" 
 ขณะนี้ประเทศไทย คือประเทศที่มีคนว่างงานต่ำที่สุดในโลกคือไม่ถึง 1%  แต่ในจำนวน1% นั้น  เป็นคนที่ว่างงานระดับปริญญาตรีประมาณ 140,000 คน  หากหมุนเวียนเข้าออกจะเหลือประมาณ 100,000 คน  โดยไตรมาสที่ผ่านมาเหลือ 90,000 กว่าคน  สำหรับคนระดับปริญญาตรีที่ว่างงานอยู่แล้วจะหางานทำได้ยากขึ้น  เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพราะผู้ประกอบการต้องพิจารณาปริญญาตรีมากขึ้น  ขณะที่ความต้องการแรงงานประมาณ 200,000 คนจะเป็นแรงงานระดับมัธยม  หรือต่ำกว่าแต่ตลาดกลับผลักดันให้คนจบปริญญาตรี
++ปรับเงินเดือนพ่วงการปรับตัว
 ขณะที่ " ก่อศักดิ์  ไชยรัศมีศักดิ์"  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บมจ. ซีพี ออลล์  ผู้บริหารเซเว่น  อีเลฟเว่น  กล่าวยอมรับว่าทุกอุตสาหกรรมจะต้องมีการปรับตัว ทั้งเรื่องค่าจ้างแรงงาน รวมถึงต้องมีการปรับเรื่องเทคโนโลยีให้มีคุณภาพ เพื่อผลิตสินค้าที่ได้คุณภาพ เพราะโลกต่อไปจะต้องดำเนินไปในรูปแบบดังกล่าว
 นอกจากกลุ่มแรงงานแล้ว หากมองในเชิงของการบริหารจัดการนั้น  กลุ่มบุคคลเช่น  นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ซึ่งได้รับเงินเดือนอยู่ที่ประมาณ 120,000 บาท  ขณะที่นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ได้รับเงินเดือน 6.3 ล้านบาท   ส่วนระดับรองลงมาของไทยเมื่อเทียบกับสิงคโปร์จะเห็นว่าไทยได้รับเงินเดือนต่ำกว่ามาก  โดยเปรียบเทียบประเด็นดังกล่าวแสดงว่านายกฯไทยหรือระดับรองมีคุณภาพต่ำกว่าหรือไม่
 "ผมต้องการชี้แนะว่าการบริหารจัดการของประเทศทั้งประเทศยังคงมีความบกพร่องอย่างมากที่มีข้าราชการระดับสูง  ไม่ว่าจะเป็นอธิบดี  หรือปลัดกระทรวงเงินเดือนต่ำ  ฉะนั้นจะต้องมีการปรับตัว  โดยเมื่อเพิ่มเงินเดือนแล้วก็จะต้องมีการปรับตัวเรื่องเทคโนโลยี  อย่ายึดติดกับกำไรของเอสเอ็มอีทุกระดับ   ที่มีฐานะเป็นคหบดีของจังหวัดแต่ใช้แรงงานราคาถูกมาทำงานไปตลอด  ต้องอย่ารีดผลกำไรจากช่องทางดังกล่าวไปตลอดชีวิต

แหล่งข้อมูล:จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษกิจ

<< ย้อนกลับ >>
 

 
         
  © 2009 Patarapong Logistics Co., Ltd. All Rights Reserved. HomelServices & SafetylActivitieslNewslContact Us Created & Powered by FOD Team.