นายธนิตโสรัตน์ รองประธานคณะทำงานเศรษฐกิจมหภาค การเงิน การคลัง สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า ปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อส่งผลให้กำลังซื้อของคนไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง ยอดขายสินค้าที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศจึงลดลงตามไปด้วย และอีกส่วนที่ได้รับผลกระทบต่อเป็นลูกโซ่คือธุรกิจการบริการขนส่ง (โลจิสติกส์) และคลังสำรองสินค้า โดยขณะนี้ในด้านขนส่งสินค้า โดยเฉพาะรถบรรทุก ที่มีอยู่ทั่วประเทศ 900,000 คัน ปรากฏว่าในไตรมาสแรกของปีนี้ ได้หยุดเดินรถเพื่อการขนส่งสินค้าแล้วประมาณ 15-20% หรือประมาณ 180,000 คัน ส่วนคลังสำรองสินค้า ก็มีปริมาณว่างถึง 30% ซึ่งแนวโน้มไตรมาส 2 จะยังคงลดต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่ารถบรรทุกสินค้าจะมีการหยุดเดินรถเกินกว่า 20% ดังนั้นสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจฯ จะติดตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยและการส่งออกของประเทศไทยใน 6 เดือนหลังของปีนี้อย่างใกล้ชิด ว่าจะกระทบต่อยอดส่งออกโดยรวมมากน้อยเพียงใด

“จำนวนรถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ที่หยุดเดินรถเพราะการขนส่งสินค้าภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวตามยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำหน่ายได้ลดลงตามกำลังซื้อของคนไทย ที่ต้องประหยัดการใช้จ่ายให้มากขึ้น รวมทั้งการขนส่งสินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เพราะภาคอสังหาริมทรัพย์ก็เติบโตแบบทรงตัว ทั้งการก่อสร้างบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัด” นายธนิตกล่าว.