| |
 |
 |
|
|
| |
| ก้าวใหม่ค้า-ลงทุนไทย-เกาหลี |
|
ในการเดินทางเยือนสาธารณรัฐเกาหลี(เกาหลีใต้) ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีระหว่างวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของมาดามปัก กึน-ฮเย ประธานาธิบดีคนใหม่ ผู้นำหญิงคนแรกของเกาหลีใต้ แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่ถือมีนัยสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านการค้า-การลงทุนระหว่างไทยและเกาหลีใต้เกิดขึ้นมากมาย rolex day date replica
"ฐานเศรษฐกิจ"ได้มีโอกาสร่วมคณะนายกฯไปด้วยจึงขอถ่ายทอดสาระสำคัญของการเดินทางเยือนเพื่อบันทึกไว้เป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์
+++เร่งขยายการค้า-ทำCEPA
ในการเดินทางครั้งนี้ นอกจากคณะนายกรัฐมนตรีของไทยจะได้เข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้แล้ว ยังได้พบปะหารือระดับทวิภาคีกับประธานาธิบดีปัก ของเกาหลีใต้ด้วย โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการหารือว่า ได้กล่าวแสดงความยินดี และกล่าวชื่นชมการทำงานของมาดามปัก พร้อมทั้งตอกย้ำความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทย-เกาหลีใต้ที่มีการสถาปนาความสัมพันธ์กันมายาวนานและจะครบ 55 ปีในปีนี้
ส่วนสาระสำคัญของการหารือทวิภาคี ได้หารือในภาพรวมทั้งการขยายการค้า การลงทุน, ความร่วมมือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่นโครงการรถไฟความเร็วสูง,โครงการบริหารจัดการน้ำ ,โครงการทวาย ,การพัฒนาบทบาทของสตรีซึ่งทางประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้แสดงความสนใจในนโยบายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่ไทยดำเนินการอยู่ รวมไปถึงการศึกษาการจัดทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ครอบคลุมระหว่างไทย-เกาหลีใต้ (CEPA) ซึ่งผู้นำทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการศึกษาความเป็นไปได้และนำเสนอผลการศึกษาภายในเดือนธันวาคม 2556
ทั้งนี้ในรายละเอียดเรื่องการขยายการค้าระหว่างกัน ไทยและเกาหลีใต้ ได้ตั้งเป้าหมายขยายการค้าที่ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 5 ปีจากปี 2555 ที่ผ่านมาการค้าไทย-เกาหลีใต้มีมูลค่า 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ไทยส่งออก 4.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และนำเข้า 8.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไทยขาดดุลการค้าเกาหลี 4.20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ปัจจุบันเกาหลีใต้เป็นคู่ค้าอันดับที่ 10 ของไทย ขณะที่ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 20 ของเกาหลี ในเรื่องขยายการค้านี้ไทยพร้อมที่จะจัดประชุมคณะรัฐมนตรีการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศทันทีที่เกาหลีใต้พร้อม เพื่อหารือเรื่องการจัดทำแผนปฏิบัติการ
ที่ผ่านมาไทยและเกาหลีใต้มีกรอบการหารือในด้านการค้าโดยได้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางการค้า(JTC) ระดับรัฐมนตรีการค้าของทั้ง 2 ฝ่าย มีการประชุมร่วมกันไปแล้ว 12 ครั้ง ล่าสุดในการหารือระหว่างผู้นำ 2 ประเทศเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 ได้เห็นควรให้จัดประชุมJTC โดยเร็ว เพื่อหารือเรื่องการค้าที่คั่งค้าง และหาข้อสรุปต่อไป รวมทั้งร่วมจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการค้าระยะ 5 ปี (2556-2560) เพื่อสนับสนุนมูลค่าการค้าทวิภาคีให้ขยายตัวบรรลุเป้าหมาย 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯภายในปี 2560
+++ชวนเกาหลีลงทุนไทยเพิ่ม
นอกจากนี้ผู้นำไทยได้ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพโดยรวมของไทยในฐานะเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งจะสามารถส่งเสริมผลประโยชน์ทางการค้าของเกาหลีใต้จากนโยบายของไทยในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และเชื่อมโยงในภูมิภาคซึ่งทางเกาหลีใต้สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการน้ำ การพัฒนารถไฟความเร็วสูง และโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวายในเมียนมาร์ รวมถึงชักชวนให้เกาหลีใต้ลงทุนเพิ่มในไทยโดยใช้ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินวอน โดยเฉพาะการลงทุนในสาขาอุตสาหกรรมที่เกาหลีใต้มีความชำนาญ เช่น ยานยนต์ เหล็ก พลังงาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ล่าสุดสถิติในปี 2555 มีโครงการลงทุนของเกาหลีใต้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 6.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในสาขาโลหะและเครื่องจักร อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เคมีภัณฑ์และกระดาษ ภาคบริการ และผลิตภัณฑ์เกษตร เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันเกาหลีใต้ถือเป็นนักลงทุนอันดับที่ 14 ของการลงทุนโดยตรง(เอฟดีไอ)ของต่างชาติในไทย ในเรื่องนี้รัฐบาลเกาหลีใต้พร้อมที่จะสนับสนุนภาคธุรกิจให้เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น
+++ขอบคุณหนุน"เค-วอเตอร์"
เรื่องอื่นๆ รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ขอบคุณมายังไทยที่สนับสนุนบริษัท เค-วอเตอร์ (โคเรีย วอเตอร์ รีซอสเซส คอร์ปอเรชั่น)จากเกาหลีผู้เสนอตัวชิงโครงการออกแบบก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และระบบแก้ปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืนของในไทยมูลค่า 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ผ่านการพิจารณากรอบแนวคิดเพื่อออกแบบก่อสร้างโครงการในเบื้องต้นทั้ง 10 โมดูล และคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.)ได้นำเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ขั้นตอนจากนี้ 6 กลุ่มบริษัทที่ผ่านการพิจารณาจะต้องยื่นข้อเสนอด้านราคาและด้านเทคนิคให้คณะกรรมการพิจารณาภายในกลางเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งที่สุดแล้วคาดว่าเค-วอเตอร์น่าจะได้งานอย่างน้อย 2-3 โมดูล
+++สนลงทุนไฮ-สปีดเทรน
ขณะเดียวกันรัฐบาลเกาหลีใต้ได้แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูงของไทย ที่จะเปิดประกวดราคาจัดจ้างผู้รับเหมาได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ เนื่องจากเกาหลีใต้มีระบบรถไฟความเร็วสูงซึ่งเทคโนโลยีของเกาหลีมีจุดเด่นทั้งในด้านความเร็ว ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ และเกาหลีใต้ก็ยินดีที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับไทย
นอกจากนี้รัฐบาลไทยยังได้เรียนเชิญมาดาม ปัก กึน-ฮเย เข้าร่วมประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 19-20 พฤษภาคมนี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่อย่างเป็นทางการด้วย ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีเนื่องจากเกาหลีเป็นประเทศที่เชี่ยวชาญการบริหารจัดการน้ำ
"จะเห็นได้ว่าการเดินทางเยือนครั้งนี้แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ถือว่าผู้นำไทยไม่ได้กลับบ้านมือเปล่า อีกทั้งความเป็นสองผู้นำหญิงของเอเชียที่มองตาก็รู้ใจ คาดจากนี้ไปความสัมพันธ์ด้านต่างๆ ระหว่างไทย-เกาหลีใต้จะดีขึ้นตามลำดับ"
แหล่งที่มา:www.thanonline.com
|
|
| << ย้อนกลับ >> |
|
|
|
 |
|
