นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัทเสริมสุข จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การส่งเอสออกสู่ตลาดเป็นความท้าทายที่จะพิสูจน์ฝีมือเสริมสุข ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในวงการน้ำอัดลมมานานถึง 59 ปีในการเจาะตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 38,000 ล้านบาท ซึ่งเสริมสุขจะรุกตลาดทุกกลุ่มเพื่อสร้างแบรนด์เอสให้ติดตลาดอย่างแข็งแกร่งและรวดเร็ว
"ในปีแรกเราตั้งเป้าจะดึงส่วนแบ่งตลาดมาให้ได้ 25% หรือมียอดขายอยู่ที่ 8 พันล้านบาท และจะขึ้นเป็นอันดับ 1 ให้ได้ภายใน 3 ปี เพราะประสบการณ์ที่ยาวนานเกือบ 6 ทศวรรษ ทำให้เสริมสุขมีแต้มต่อหลายด้านที่จะพัฒนาเอสให้อยู่ในใจคนไทยได้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนารสชาติให้ถูกปากคนไทย ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภค พบว่าผู้บริโภคเกือบ 77% ชื่นชอบรสชาติของน้ำอัดลมเอส และจะซื้อดื่มแน่นอน ทั้งนี้ ยังเพิ่มนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ใหม่ 2 ขนาดเป็นครั้งแรกในตลาด คือ ขวดแก้ว 12 ออนซ์สำหรับดื่มคนเดียว และPET 1 ลิตร สำหรับดื่มหลายคน และใช้งบโฆษณาช่วงเปิดตัวกว่า 300 ล้านบาท พร้อมทั้งเรามีฐานร้านค้ากว่า 200,000 ร้านทั่วประเทศ ที่จะทำให้สินค้าของเราเข้าถึงผู้บริโภคในทุกพื้นที่"นายฐิติวุฒิ์กล่าวและเปิดเผยอีกว่า
Replica Watches
จากประสบการณ์ที่ยาวนาน ทำให้เสริมสุขมีแต้มต่อด้านคนที่มีประสบการณ์การทำงาน การผลิต และระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน 8,000 คน โรงงาน 5 แห่ง รถขาย 1,200 คัน และตู้เย็น 150,000 ตู้ นอกจากนี้ เสริมสุขยังวางจำหน่ายน้ำอัดลมเอสในบรรจุภัณฑ์ทั้ง 7 ขนาด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคให้ลงตัวมากขึ้น โดยมีราคาเริ่มต้น 8 ถึง 20 บาท และแผนขั้นต่อไปในเร็ว ๆ นี้ทางบริษัทยังเตรียมที่จะส่งน้ำสี และน้้ำขาวเข้ามาเสริมด้วย