เกี่ยวกับ ขนส่ง

กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ  

ราคาน้ำมัน  

หาระยะทาง  

ท่าเรือแหลมฉบัง  
อื่นๆ

กรมศุลกากร  

หนังสือพิมพ์  

ดูดวง  
 
 
เกาะติดกู้วิกฤติน้ำมันรั่วลงทะเล




คราบน้ำมันดิบสีดำบริเวณอ่าวพร้าว ของเกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ที่ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลก กำลังสร้างความตื่นตระหนกให้กับทุกภาคส่วนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา

altไม่ว่าระบบนิเวศวิทยาทางทะเล ที่มีผลต่อสัตว์น้ำ สภาพแวดล้อมของชายหาดที่จะเปลี่ยนไป ผลกระทบด้านการท่องเที่ยวโดยรวมของเกาะเสม็ด และอาชีพของกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้าน ที่พึ่งการจับสัตว์น้ำบริเวณรอบเกาะเสม็ดและพื้นที่ใกล้เคียง
Omega Replica For Sale    จากการลงพื้นที่ตรวจสอบของทีมข่าว "ฐานเศรษฐกิจ" เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า มีความพยายามของหลายฝ่ายในการเร่งกู้กำจัดคราบน้ำมันดิบบริเวณชายหาดอ่าวพร้าว ให้ดีขึ้นเป็นลำดับ แม้จะล่าช้ากว่าที่กำหนด เนื่องจากมีข้อจำกัดการขึ้นลงของน้ำทะเล ประกอบกับยังไม่มีเครื่องมือทันสมัยที่ดีพอในการเก็บคราบน้ำมัน ด้วยเหตุของสภาพพื้นที่ของถนนบนเกาะไม่เอื้ออำนวยที่จะส่งเครื่องมือขนาดใหญ่เข้ามาได้ ทำให้ต้องใช้รูปแบบการเก็บคราบน้ำมันโดยใช้อุปกรณ์ดูดน้ำมัน การใช้แผ่นดูดซับน้ำมัน และเครื่องมือฉีดพ่นแรงดันสูงทำความสะอาดหิน รวมถึงการใช้บูมล้อมน้ำมันที่คลื่นซัดเข้ามาและตักเก็บคราบน้ำมันใส่ถุงที่เตรียมไว้
+++เร่งฟื้นฟูสภาพอ่าวพร้าว
    นายบวร วงศ์สินอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) หรือ บมจ.พีทีทีจีซี ชี้ให้เห็นว่า การเก็บคราบน้ำมันได้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในวันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา หลังจากนี้ไป จะเป็นช่วงของการทำความสะอาดชายหาด ไม่ว่าจะเป็นทำความสะอาดหินทุกก้อน การตักทรายที่มีการปนเปื้อนของคราบน้ำมัน รวมถึงการขนย้ายขยะที่มีคราบน้ำมัน ถุงน้ำมันที่เก็บไว้ ออกจากชายหาดโดยทางเรือ ซึ่งน้ำมันดิบส่วนที่ใช้ได้จะถูกส่งเข้าโรงกลั่น และบางส่วนจะถูกนำไปกำจัด ขณะที่ทรายที่ปนเปื้อนจะถูกส่งไปเผาที่โรงงานปูนซีเมนต์
alt    "หลังจากนี้ไปจะมีการเฝ้าระวัง เพื่อติดตามคราบน้ำมันที่หลงเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อกำจัดคราบน้ำมันที่มีอยู่ให้ได้ 100 % ซึ่งขณะนี้จะเห็นได้ว่าคราบน้ำมันที่ปรากฏอยู่เหลือน้อยมาก การดำเนินงานต่อไปจะเป็นเรื่องของการฟื้นฟู ที่มีแผนอยู่ 3 ระยะ โดยระยะสั้นจะดำเนินการฟื้นฟูสภาพชายหาดให้กลับมาเป็นปกติ ระยะกลางจะทำการศึกษาสำรวจผลกระทบที่เกิดขึ้นและระยะยาวฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กลับคืนมาเหมือนเดิม"
    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางบมจ.พีทีทีจีซี จะดำเนินการกู้สภาพชายหาดอ่าวพร้าวในระยะแรกได้แล้วก็ตาม แต่หากย้อนไปตั้งแต่วันเกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลลงทะเลตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม เป็นต้นมาแล้ว ความเสียหายที่ปรากฏขึ้นก็ย่อมมีตามมาให้เห็น
+++ระยะสั้นสัตว์น้ำหนีแล้ว
    นายจัตุรัส เอี่ยววรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงเรือเล็กพื้นบ้านระยอง ซึ่งมีสมาชิกอยู่ 21 กลุ่ม ประมาณ 1.2 พันราย กล่าวว่า ผลกระทบระยะสั้นได้เกิดขึ้นกับกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านแล้ว จากการสอบถามสมาชิกกลุ่มประมงที่อาศัยร่องน้ำบริเวณปากน้ำระยอง ในการวางรอกดักปู ปลาหมึกและปลา  ซึ่งเป็นแนวที่น้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลเคลื่อนตัวผ่านไปยังอ่าวพร้าว ปกติจะจับสัตว์น้ำได้ประมาณวันละหลาย 10 กิโลกรัมต่อราย แต่เมื่อเกิดเหตุทำให้ปูหรือสัตว์น้ำชนิดอื่นไม่มาติดอวนหรือรอกที่ดักไว้ตามร่องน้ำ แต่จะไปติดอยู่ตามอวนหรือรอกที่อยู่นอกบริเวณร่องน้ำแทน เป็นการแสดงให้เห็นว่าบรรดาสัตว์น้ำได้หนีกลิ่นน้ำมันหรือบางตัวอาจจะตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ปรากฏขึ้นให้เห็นแล้ว
    การที่ปริมาณน้ำมันกระจายตัวเป็นแนวกว้างหรืออาจจะเป็นเพียงแผ่นฟิล์มบาง รวมถึงคราบน้ำมันที่ตกตะกอนลงสู่พื้นทะเล จากการฉีดพ่นสารเคมี กลุ่มประมงก็เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อการทำอาชีพประมงระยะยาว เพราะบรรดาสัตว์น้ำจะหนีออกไปนอกบริเวณที่ทำประมงอยู่ในปัจจุบันไกลขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต ที่เกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลในปริมาณที่น้อยกว่านี้ ยังใช้เวลากว่าจะกลับมาเป็นปี แต่ครั้งนี้เกิดขึ้นในปริมาณมาก การจะฟื้นฟูกลับมาได้คงไม่ต่ำกว่า 5-10 ปี

 ในระหว่างนี้หน่วยงานรัฐและเอกชน จะต้องตั้งคณะกรรมการศึกษาเฝ้าระวังที่เป็นกลางขึ้นมา โดยมีภาคประชาชนร่วมอยู่ด้วย เพื่อไปฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทรัพยากรให้กลับคืนมา
    ส่วนการเยียวยาค่าเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ผู้ที่เดือดร้อนจริงๆจะต้องได้รับการดูแล โดยเฉพาะกลุ่มประมง โรงแรมและรีสอร์ตต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งในส่วนของกลุ่มประมงขณะนี้ได้มีการประชุมกันใน 21 กลุ่มแล้ว โดยให้แต่ละกลุ่มไปรวบรวมความเสียหายที่เกิดขึ้น และการเสียโอกาสในการทำประมง เพราะช่วงที่เกิดเหตุการณ์ทำให้ออกเรือทำประมงไม่ได้ เพื่อนำไปสู่การเรียกร้องความเสียหายต่อไป
+++ข่าวดีไปไม่ถึงปากคลองแกลง
     จากที่มีการคาดการณ์ว่า คราบน้ำมันดิบจะขยายตัวไปแนวกว้างไปถึงบ้านเพ และต่อเนื่องไปถึงอำเภอแกลงนั้น นายมังกร วงค์ประเทษ สมาชิกกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านสวนสน ตำบลบ้านเพ  ซึ่งอยู่บริเวณชายหาดสวนสน ติดกับท่าเรือบ้านเพ ทำอาชีพประมงและเปิดร้านค้าขายสัตว์น้ำที่หามาได้ด้วยนั้น กล่าวว่า ปกติจะทำประมงอยู่บริเวณเกาะขาม อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะเสม็ด หรือตรงข้ามกับปากคลองแกลง ยังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหล สัตว์น้ำที่จับได้ ไม่ว่าจะเป็น ปู ปลาทราย กุ้งแชบ๊วย ยังสามารถจับได้ตามปกติไม่ได้ลดลง แต่ไม่ทราบว่าระยะต่อไปจะเป็นอย่างไร
    แต่สิ่งที่เห็นในขณะนี้ราคาสัตว์น้ำที่จับมาได้จะมีราคาลดลงบ้าง และข่าวที่แพร่ออกไป ทำให้นักท่องเที่ยวซื้อน้อยลง ซึ่งจะต้องดูว่าในช่วงวันหยุดนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาหาดสวนสนหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก
    อย่างไรก็ตาม ถึงวันนี้คิดว่าคราบน้ำมันจะหมดไปแล้ว แต่ไม่ทราบว่าคราบน้ำมันที่ตกลงสู่ก้นทะเลจะมีผลต่อสัตว์น้ำหรือไม่ คงต้องรอดูต่อไป ซึ่งทางกลุ่มที่อยู่บริเวณสวนสนทำประมงอยู่กว่า 100 ราย มีรายได้เฉลี่ยต่อวันประมาณ 2-3 พันบาท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้บอกให้ไปลงชื่อไว้เพื่อเป็นหลักฐานเรียกร้องค่าความเสียหาย หากเกิดผลกระทบขึ้นจริง
+++ท่องเที่ยวเสียหายยับ
    ขณะเดียวกันบรรยากาศด้านการท่องเที่ยวบนเกาะเสม็ด ต้องยอมรับว่าค่อนข้างเงียบเหงา หากไม่มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ต่างๆเดินทางไปอ่าวพร้าว  นักท่องเที่ยวที่เข้าพักแต่ละโรงแรมหรือรีสอร์ต แทบทั้งหมดจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาพักประปราย ตามหาดต่างๆที่ไม่ได้รับผลกระทบ ขณะที่คนไทยแทบจะไม่เห็น
    นางสาวบุญฑริกา ทำทอง พนักงานจัดเก็บค่าธรรมเนียม ท่าเรือเกาะเสม็ด องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ยอมรับว่า แม้เหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลจะเกิดขึ้นที่อ่าวพร้าว แต่ภาพรวมกลายเป็นเกิดขึ้นกับเกาะเสม็ดทั้งหมด ไม่ว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาพัก และร้านขายของต่างๆ แทบจะไม่มีลูกค้าเข้ามาซื้อ เห็นได้จากปกติก่อนที่จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น แม้จะอยู่ในช่วงโลว์ซีซันและเป็นวันธรรมดาก็ตาม จะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ มาชำระค่าธรรมเนียมผ่านเข้าเกาะเสม็ดประมาณ 700 คน ซึ่งต้องเสียค่าธรรมเนียมรายละ 10 บาท แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์โดยเฉพาะช่วงกลางสัปดาห์ก่อนที่นักท่องเที่ยวทราบข่าวมีน้ำมันรั่วไหล ทำให้นักท่องเที่ยวหายไปเหลือไม่ถึง 300 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นต่างชาติเกือบทั้งหมด จะมีคณะทัวร์จากจีนเข้ามาประปรายเท่านั้น ซึ่งถือว่าบรรยากาศการท่องเที่ยวของเกาะเสม็ดช่วงนี้ซบเซามาก
Omega Replica Watches ไม่ทราบว่าจะฟื้นกลับมาได้เมื่อไร จะต้องรอดูว่าในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ ที่ปกติจะมีนักท่องเที่ยวคนไทยเข้ามาเที่ยว จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นหรือไม่
    เช่นเดียวกับผู้ประกอบการร้านค้าขายของที่ระลึก บริเวณเท่าเรือนวลทิพย์ สะท้อนให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ หายไปมาก ไม่เคยปรากฏมาก่อน รายได้จากที่เคยขายได้วันละประมาณ 6 พันบาท เหลือไม่ถึง 3 พันบาทต่อวัน ซึ่งอยากให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด และเรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวกลับมา เพราะไม่เช่นนั้นแล้วบรรดาผู้ประกอบการต่างๆ จะไปไม่รอด


แหล่งที่มา:www.thanonline.com













<< ย้อนกลับ >>
 

 
         
  © 2009 Patarapong Logistics Co., Ltd. All Rights Reserved. HomelServices & SafetylActivitieslNewslContact Us Created & Powered by FOD Team.